
เป็นที่ทราบดีถึงความสำคัญของการรับประทานอาหารมื้อเช้าว่า เป็นมื้อที่สำคัญที่สุดสำหรับการเริ่มต้นกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวันอย่างมีประสิทธิภาพ
การงดรับประทานอาหารมื้อเช้า อาจทำให้ร่างกายได้รับพลังงานและสารอาหารไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เนื่องจากกระเพาะอาหารของคนเรามีขนาดความจุที่จำกัดสำหรับการกินอาหารแต่ละครั้ง โดยเฉพาะในเด็กวัยเรียนซึ่งมีขนาดของกระเพาะอาหารเล็กกว่าผู้ใหญ่ ในขณะที่มีความต้องการพลังงานและสารอาหารต่อหน่วยน้ำหนักมากกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากเป็นวัยที่ยังมีการเจริญเติบโต ดังนั้นเด็กๆ จึงจำเป็นต้องกินอาหารอย่างน้อย 3 มื้อ
ที่สำคัญเมื่อเราตื่นนอนในตอนเช้า ระดับน้ำตาลในเลือดจะต่ำ เมื่อเราลุกขึ้นเคลื่อนไหวทำกิจกรรมต่างๆ ก็จะรู้สึกหิว หากเราไม่เติมพลังงานให้กับร่างกายด้วยการรับประทานอาหารมื้อเช้า ร่างกายก็จะไปดึงพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตที่สะสมไว้ในตับ ซึ่งร่างกายเก็บเป็นเสบียงไว้ใช้ในยามจำเป็น นำมาใช้เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด เพื่อให้ร่างกายทำงานได้ตามปกติ แต่ไม่นานนักพลังงานส่วนนี้จะถูกใช้จนหมดไปเพราะไม่มีใหม่มาเติม
มีงานวิจัยหลายเรื่องที่พบว่า การกินอาหารเช้ามีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน เพราะในขณะที่ท้องหิวสมองก็ไม่รับรู้เรื่องที่ครูสอนไม่มีสมาธิในการเรียน บางคนไปสอบโดยไม่มีกินอาหารเช้า ทำให้ทำข้อสอบไม่ได้ดีเท่าที่ควร ฉะนั้นเราควรกินอาหารเช้าเพื่อให้ร่างกายได้รับพลังงานที่จะต้องใช้ในการทำงานทั้งกำลังกายและสมอง
ไม่เพียงแต่เด็กเท่านั้นที่ต้องการอาหารเช้า แต่ผู้ใหญ่ก็ยังต้องการอาหารเช้าเช่นกัน มีผลวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่า คนที่กินอาหารเช้ามีพลังงานในการทำงานได้นานกว่า และมีความอ่อนล้าในช่วงกลางวันน้อยกว่าคนที่เริ่มอาหารเช้าด้วยกาแฟเพียงแก้วเดียว
การกินอาหารเช้าทำให้ช่วยลดปริมาณการกินอาหารว่าง และถ้าเราปล่อยให้ร่างกายคอยนานเกินไปกว่าจะได้รับอาหารมื้อแรกของวัน ระบบการย่อยอาหารก็จะเฉื่อยชาในการทำงาน ซึ่งมีงานวิจัยพบว่า คนที่ไม่กินอาหารเช้ามีอัตราการเผาผลาญอาหารต่ำกว่า คนที่กินอาหารเช้าเป็นประจำ
แต่ด้วยไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบของครอบครัวในปัจจุบัน อาหารเช้าซีเรียล จึงได้เข้ามามีบทบาทและกลายมาเป็นผู้ช่วยสำคัญให้กับครอบครัวยุคปัจจุบัน อย่างมาก
ถึงแม้อาหารเช้าซีเรียลจะเป็นวัฒนธรรมการรับประทานอาหารเช้าที่เริ่มมาจาก ชาวตะวันตก แต่ในปัจจุบัน หลายประเทศในเอเชีย รวมถึงคนไทยจำนวนมากได้หันมารับประทานอาหารเช้าซีเรียล นอกเหนือจากอาหารเช้ารูปแบบเดิม เพราะสะดวกและง่ายในการเตรียม เหมาะกับช่วงเวลาที่เร่งรีบเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ยังให้คุณค่าสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แถม มีปริมาณแคลอรี่ น้ำตาล และไขมันที่น้อยกว่าอาหารเช้าทั่วไปที่นิยมรับประทาน
ผศ.ดร.เรวดี จงสุวัฒน์ อาจารย์ภาควิชาโภชนวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและโภชนาการ กล่าวว่า “ปัจจุบันอาหารเช้าซีเรียล กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในครอบครัวยุคใหม่ที่ไม่ค่อยจะมีเวลา เพราะสะดวกและง่ายในการเตรียม เพียงเติมนมก็สามารถรับประทานได้แล้ว นับเป็นอีกหนึ่งอาหารเช้าที่มีคุณค่า นอกจากนี้ ในปัจจุบันผู้ผลิตได้มีการพัฒนาเพิ่มคุณค่าสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และมีรสชาติที่หลากหลายและอร่อยถูกปากมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาให้ซีเรียลมีปริมาณน้ำตาล ไขมัน และเกลือ (โซเดียม) ต่ำ มีใยอาหารมากขึ้น ยกตัวอย่าง หากรับประทานพร้อมนมเป็นอาหารมื้อเช้า ปริมาณโซเดียมอยู่ที่ 120-216 มิลลิกรัม ส่วนน้ำตาลอยู่ที่ 9.7-9.9 กรัม ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค ซึ่งปกติปริมาณโซเดียมที่ได้รับจากแต่ละมื้อไม่ควรเกิน 600 มิลลิกรัม และน้ำตาลไม่ควรเกิน 12.5 กรัม นอกจากนี้ยังมีการนำโฮลเกรนมาผลิตเป็นอาหารเช้าซีเรียบอีกด้วย”
โฮลเกรน หรือธัญพืชเต็มเมล็ด เป็นธัญพืชที่ไม่ผ่านการขัดสีหรือขัดสีน้อยที่สุด โดยยังคงส่วนประกอบสำคัญในธัญพืชอยู่ครบถ้วน ได้แก่ เยื่อหุ้มเมล็ด (Bran) เนื้อเมล็ด (Endosperm) และจมูกข้าว (Germ) ซึ่งเป็นส่วนที่มีคุณค่าโภชนาการสูงสุด และอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วนตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นไฟเบอร์ วิตามิน แร่ธาตุ และไฟโตนิว เตรียนท์ หรือสารต้านอนุมูลอิสระต่างๆ
มีผลการวิจัยจำนวนมากระบุถึงคุณค่าสารอาหารที่มีอยู่มากมายใน โฮลเกรน โดยเฉพาะต่อเด็กวัยเรียน พบว่าหากรับประทานซีเรียลที่ทำมาจากโฮลเกรนเป็นอาหารเช้า ร่างกายจะย่อยอย่างช้า ๆ และค่อย ๆ ปลดปล่อยพลังงานออกมา ช่วยให้เด็กมีพลังงานอย่างต่อเนื่องจนถึงมื้อกลางวัน ทำให้เด็กมีสมาธิในการเรียน เรียนหนังสือได้ดี และสามารถเรียนรู้ได้อย่างเต็มศักยภาพ
ปัจจุบันครอบครัวไทยห่างเหินอาหารมื้อเข้ากันไปมาก เหตุผลหลักที่มักอ้างกันเสมอก็คือ “ไม่มีเวลา” อาหารเช้าซีเรียลจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรับประทานอาหารเช้าที่เหมาะสม สำหรับครอบครัวยุคใหม่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
โดย ศศิมา ดำรงสุกิจ ทีมเดลินิวส์ 38
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น