อาหารเสริม สร้างผิว

อาหารเสริมสร้างผิว (Health & Cuisine)

อาหารที่มีประโยชน์ นอกจากส่งผลดีต่อสุขภาพ ยังเสริมให้ผิวสวย สดใส อ่อนเยาว์ และนี่คือ อาหารที่ผิวต้องการค่ะ

ผักและผลไม้

ควรรับประทานผักผลไม้หลากสีสลับกันไป จะทำให้ได้สารอาหารครบถ้วน กระเทียม หอมหัวใหญ่ และพริกหวาน ควรอยู่ในมื้ออาหารทุกครั้ง

ธัญพืช

ถั่วเลนทิล ข้าวบาร์เล่ย์ ข้าวโอ๊ต และเมล็ดบัควีท ช่วยรักษาระดับคอเลสเตอรอลในเลือด จมูกข้าวสาลี ถั่วเหลือง ถั่วเขียว อุดมด้วยโปรตีนแต่ไขมันต่ำ ควรรับประทานทุกวันเช่นกัน

ปลา

แหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย อย่าง โอเมก้า-3 ควรรับประทานประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เสริมสร้างพัฒนาการทางสมอง

ถั่ว

เมล็ดถั่วทุกชนิดอุดมไปด้วยวิตามินบี ที่ช่วยบำรุงหัวใจและสมอง ทั้งยังมีไขมันที่จำเป็นต่อการเสริมสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง แต่ให้พลังงานสูง ควรรับประทานสัปดาห์ละครั้งในปริมาณเล็กน้อย

Fit&Firm หุ่นดีดี คุณทำได้…(ง่ายจัง)

กันยายน 10th, 2010

Fit&Firm หุ่นดีดี คุณทำได้…(ง่ายจัง)

ขั้นตอนการออกกำลังกายที่ยุ่งยากซับซ้อน หรืออุปกรณ์การออกกำลังกายราคาแพง ไม่ใช่ประเด็นสำคัญในการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก ความสม่ำเสมอในการออกกำลังกายต่างหาก ที่เป็นข้อสำคัญอันดับต้นๆ การออกกำลังกายด้วยวิธีง่ายๆ ที่สามารถทำได้บ่อยหรือทำได้ทุกวันจะให้ผลดีต่อร่างกาย อย่างที่คุณคาดไม่ถึง

อย่างที่เรารู้กัน น้ำหนักตัวเราไม่ได้เพิ่มขึ้นเป็น 10 กิโลในชั่วข้ามคืน และเราก็คงไม่สามารถกำจัดไขมันออกได้ ในทันทีทันใดเช่นกัน แต่หลายคนก็คงรู้สึกเบื่อหน่าย กับการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก จึงพยายามเสาะแสวงหาวิธีการง่ายๆ ที่จะลดน้ำหนักโดยไม่ต้องทำอะไรมาก เพราะไม่อยากเสียเหงื่อ เสียเวลา

ถึงแม้เราจะหุ่นดีภายในเวลาอันรวดเร็วไม่ได้ แต่เราก็ยังสามารถค้นหาโปรแกรมออกกำลังกายอย่างง่าย ที่ใช้เวลาไม่มากนัก เหมาะกับผู้ที่มีเวลาไม่มากในแต่ละวัน และมันทำให้คุณกลับมามีรูปร่างที่สวยเพรียวได้ ถ้าออกกำลังกายตามโปรแกรมควบคู่ไปกับการลดแคลอรี่ในอาหาร โปรแกรมออกกำลังกาย 6 ขั้นตอนต่อไปนี้ สามารถทำได้โดยใช้เวลาเพียง 15 นาที หัวใจของมันคือการทำแต่ละท่าอย่างถูกต้อง เพื่อให้ได้ผลดีต่อร่างกายอย่างแท้จริง การออกกำลังกายนี้ ไม่ต้องการอุปกรณ์ราคาแพงใดๆ และไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิก สถานออกกำลังกายราคาแพง

คุณสามารถใช้เวลากับมันที่บ้าน หรือสวนสาธารณะใกล้บ้าน ในแต่ละท่าบริหารควรทำซ้ำประมาณ 8-12 ครั้ง มาเริ่มกันเลย

ขั้นที่ 1 วอร์มอัพ

ใช้เวลา 2-3 นาทีในการวอร์มอัพด้วยการเดินเล็กน้อย ถ้าทำที่บ้านก็เดินไปรอบๆ ห้อง หรือวิ่งอยู่กับที่ เป็นการเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ

ขั้นที่ 2 โหนบาร์

บาร์เดี่ยว เป็นอุปกรณ์การออกกำลังกายที่คุณพบเจอได้เสมอ ตามสวนสาธารณะหรือสนามเด็กเล่น การเล่นบาร์เดี่ยวถือเป็นการออกกำลังกายที่ดีเยี่ยม เราจะได้ใช้กล้ามเนื้อหลัก ๆ ของร่างกายส่วนบน วิธีการคือกางแขนกว้างเท่าช่วงไหล่ หงายฝ่ามือจับราวและดึงตัวขึ้นไป ถ้าอยู่บ้านก็ใช้วิธีโหนวงกบประตูหรือบันไดแทน

Read the rest of this entry »

Posted in การออกกำลังกายลดหุ่น, เคล็ดลับหลายวิธีในการลดน้ำหนัก | Tags: Fit&Firm หุ่นดีดี คุณทำได้...(ง่ายจัง)

สลัดกุ้งลดน้ำหนัก

กันยายน 9th, 2010

สลัดกุ้งลดน้ำหนัก

สลัดผักและผลไม้ เป็นสูตรอาหารลดน้ำหนักยอดนิยม ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักทั้งหลาย ผักและผลไม้มีสารอาหารที่มีคุณค่าทั้งวิตามิน เกลือแร่ ตลอดจนสารแอนตี้ออกซิเดนท์ แต่ส่วนผสมในน้ำสลัดก็เป็นปัญหาใหญ่ ที่หลายคนมีความกังวล และลังเลในการที่จะเลือกสลัด มาเป็นเมนูโปรดยามไดเอท เนื่องจากส่วนผสมของน้ำสลัด ทำมาจากน้ำมัน และน้ำส้มสายชูที่ไม่ผ่านการหมัก ทำให้อาหารจานเด็ดของเรา ถูกเพิ่มพลังงานไปหลายแคลอรี่เลยทีเดียว

สูตรที่นำมาเสนอวันนี้ จึงเลี่ยงที่จะใช้น้ำสลัดเป็นส่วนประกอบ แต่รับรองว่าอร่อยไม่แพ้กัน เพราะเราจะใช้โยเกิร์ตมาแทนน้ำสลัด โดยเป็นโยเกิร์ตชนิดพร่องมันเนย สูตรธรรมชาติที่ไม่ใส่น้ำเชื่อมปรุงแต่งมากเกินไป

วัตถุดิบและส่วนประกอบ

1. ผักต่างๆ ตามชอบ เช่น ผักกาดแก้ว หรือผักสลัด แตงกวา มะเขือเทศสีดา แครอท ฯลฯ

2. ผลไม้ที่ไม่หวานมาก เช่น แตงโม ส้ม แอปเปิ้ล ฝรั่ง แตงไทย แก้วมังกร สับปะรด องุ่น ฯลฯ

3. ธัญพืชต่าง ๆ เช่น ข้าวโพด ถั่วแดง ถั่วลันเตา ลูกเดือย ฯลฯ

4. เนื้อกุ้งแกะเปลือก ส่วนที่เป็นมันและไข่กุ้งทิ้งไป

วิธีปรุง

• นึ่งหรือต้มกุ้งในน้ำเดือดให้พอสุก ตักขึ้นพักไว้
• นำผักและผลไม้มาล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
• นำผักส่วนที่เป็นใบวางรองก้นจาน ใส่ผักที่เหลือตามลงไป
• ใส่ผลไม้ที่เตรียมไว้ลงไป จัดแต่งให้สีสันสวยงาม
• แต่งหน้าด้วยกุ้งรอบๆ จาน ตบท้ายโดยราดน้ำโยเกิร์ต เป็นอันเสร็จ

Posted in อาหาร, เคล็ดลับหลายวิธีในการลดน้ำหนัก | Tags: สลัดกุ้งลดน้ำหนัก

คุณหมอแนะ หลักในการ Diet 3 ประการ

สิงหาคม 30th, 2010

คุณหมอแนะ หลักในการ Diet 3 ประการ

1.กำจัดปริมาณอาหาร ให้เหลือประมาณ 40% จากที่เคยรับประทาน แต่ต้องเป็นการกำจัดปริมาณที่ต้องได้รับสารอาหารที่เพียงพอ เพื่อเราจะได้น้ำหนักตัวที่ลดลงตามต้องการ และยังได้สุขภาพที่ดี เป็นการชะลอความชรา ตามหลักของ anti-aging medicine

2.อย่างดอาหารเช้าเป็นอันขาดเพราะเป็นอาหารมื้อสำคัญ และ หลัง 6 โมงเย็น ไม่ควรทานอาหารอีก

3.การออกกำลังกายแบบ interval training หรือการออกกำลังกายแบบหนักสลับเบา เช่น เดินเร็ว 35 นาที สลับวิ่งเหยาะๆ 12 นาที จะช่วยควบคุมน้ำหนักได้ดี การออกกำลังกายแบบนี้บ่อยๆ จะสร้างความเคยชินให้กับร่างกาย และทำให้ปอดกับหัวใจสร้างเส้นเลือดฝอยใหม่ๆ เพิ่มขึ้น และเส้นเลือดฝอยเหล่านี้ ก็จะเป็นทางผ่านสำหรับออกซิเจนไปสู่กล้ามเนื้อได้ดีขึ้น ทำให้กล้ามเนื้อมีการพัฒนาให้มีความทนต่อกรดแลคติกได้ดียิ่งขึ้น แข็งแรงขึ้นโดยเฉพาะกล้ามเนื้อหัวใจ ร่างกายของคุณก็จะไม่เสื่อมโทรมจากการออกกำลังกายหนักๆ อย่างต่อเนื่อง

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการลดน้ำหนักคือ คุณต้องรู้พฤติกรรมของตัวเองก่อนว่า ในแต่ละวันคุณมีกิจกรรมซึ่งต้องใช้พลังงานประมาณเท่าใด เพื่อจะได้จัดตารางสำหรับอาหารลดน้ำหนัก และตารางออกกำลังกายของคุณได้อย่างถูกต้อง คนที่ทานอาหารเช้า มักเป็นคนที่อารมณ์ดี มีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ตรงกันข้ามกับคนที่ไม่ได้รับประทานอาหารเช้า จะรู้สึกร่างกายไม่กระฉับกระเฉง รู้สึกง่วงนอน อ่อนเพลีย เรียนหรือทำงานไม่ค่อยรู้เรื่อง โดยเฉพาะถ้ามีการอดอาหารเช้าเป็นระยะเวลาติดต่อกันหลายๆวัน จะทำให้เกิดปัญหาระดับน้ำตาลในเลือดไม่คงที่ ติดตามมา ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน และโรคภัยไข้เจ็บอื่นๆ

การไม่กินอาหารเช้า แต่กลับไปกินหนักไม่มื้ออาหารอื่น โดยเฉพาะมื้อเย็นหรือมื้อดึก เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาเรื่องอ้วน เนื่องจากร่างกายไม่ได้นำพลังงานจากอาหารไปใช้เมื่อเข้านอน คนรุ่นใหม่มักจะดื่มกาแฟมื้อเช้าเพื่อรองท้อง แต่คุณหมอบางท่านเคยให้คำแนะนำว่า ควรเพิ่มแซนวิชซัก 1 คู่ หรือข้าวเหนียวหมูปิ้งก็ได้ เพราะมีส่วนประกอบของไขมัน แป้ง โปรตีน และผัก ส่วนมื้อเที่ยงอาจทานข้าวผัดผักกับปลาทอด ขณะที่มื้อเย็นควรเป็นมื้อเบา เพราะร่างกายใช้พลังงานน้อย

สรุปเป็นหลักง่าย ๆ ว่า มื้อเช้าควรรับประทานแบบครบทุกหมู่ อาหารกลางวันทานแบบพอประมาณ ส่วนอาหารเย็นนั้นงดได้ควรงด หรือเปลี่ยนเป็นสลัดผักน้ำใส หรือผลไม้ที่มีกากใยเพิ่มมากขึ้น หลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นแป้งกับน้ำตาลฟอกขาว ที่สำคัญที่สุดคือ อย่าลืมออกกำลังกาย ให้ได้วันละประมาณ 30 -40 นาที

Posted in เคล็ดลับหลายวิธีในการลดน้ำหนัก | Tags: คุณหมอแนะ หลักในการ Diet 3 ประการ

Peanut Butter เนยถั่วแสนอร่อย กินแล้วไม่อ้วนนะ

สิงหาคม 26th, 2010

Peanut Butter เนยถั่วแสนอร่อย กินแล้วไม่อ้วนนะ

พูดถึงเนยถั่ว หลายคนคงนึกถึงแครกเกอร์ไม่ก็ขนมปัง เนยถั่วปาดบางๆ บนแผ่นขนมปังนุ่มๆ กับแยม ที่เรียกว่า Peanut Butter & Jelly Sandwich เป็นอะไรที่สุดยอดและเข้ากั๊น เข้ากัน หรือถ้าใครไม่ชอบจะหันเอาเนยถั่วมากินกับแครกเกอร์กรุบกรอบ ก็เป็นเมนูอาหารว่างที่เคี้ยวเพลิน จนหยุดไม่อยู่สำหรับบางคนเลยทีเดียว แต่สำหรับคนที่กลัวอ้วน คงอยากจะเมินหน้าหนี แต่ถ้าคุณได้อ่านข้อมูลต่อไปนี้ คุณอาจจะเปลี่ยนความคิด และเปลี่ยนใจกลับไปกินมัน

จริงอยู่ที่เนยถั่ว มีปริมาณแคลอรี่สูง ประมาณ 160 แคลอรี่ ต่อ 2 ช้อนชา และแคลอรี่ที่อัดแน่นอยู่ในเนยถั่วนี้ ประกอบไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุและไฟโตนิวเทรียนต่างๆ อันมีประโยชน์ถึง 30 ชนิด และเป็นแหล่งโปรตีน แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส กากใย และวิตามินอี นอกจากนี้มันยังไม่มีไขมันแปรรูปหรือโคเลสเตอรอล

จากการศึกษาพบว่า ผู้ที่ชอบกินเนยถั่วจะมีความเสี่ยงต่ำที่จะน้ำหนักเกินหรืออ้วน (เป็นงั้นไป!!) ในอาหารที่อุดมไปด้วยถั่วนั้น จะสามารถลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคเบาหวานประเภท 2 และโรคหลอดเลือดหัวใจ เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีข้อเท็จจริงอีกอย่างที่ถูกพบ นั่นคือในเนยถั่ว มีสารตามธรรมชาติบางอย่าง ที่ช่วยลดความอยากอาหารได้ การกินเนยถั่วเป็นประจำ จึงสามารถช่วยในการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี ……ว่าแล้วก็กุลีกุจอ ไปหาเนยถั่วมากินกันได้อย่างสบายใจซะที

Posted in อาหาร | Tags: Peanut Butter เนยถั่วแสนอร่อย กินแล้วไม่อ้วนนะ

เรื่องลับ..ที่ไม่ลับ ของไขมัน

สิงหาคม 24th, 2010

เรื่องลับ..ที่ไม่ลับ ของไขมัน

1. การกินอาหารมื้อดึกอาจไม่ทำให้อ้วนเสมอไป ขึ้นอยู่กับว่าคุณทานอาหารแบบไหน และปริมาณมากเท่าไหร่มากกว่า ถ้าคุณกินอาหารมื้อดึกแต่เพียงมื้อเล็ก และมีแคลอรี่นิดหน่อย คุณก็คงจะมีไขมันเหลืออยู่ในร่างกาย น้อยกว่าการกินมื้อใหญ่ช่วงกลางวันจนเหลือไขมันสะสมในร่างกายเพียบ วิธีกินที่ดีที่สุด คุณควรแบ่งให้มันเป็นมื้อย่อยๆ หลายๆมื้อ แต่กินในปริมาณน้อยๆ แบบนี้รับรองว่าความอ้วนไม่มากล้ำกรายแน่

2.ร่างกายเผาผลาญแอลกอฮอล์ได้รวดเร็วกว่าอาหารชนิดอื่น ได้ยินแบบนี้ ไม่ใช่จะไปสนับสนุนให้คุณดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทั้งหลาย ไม่ได้ช่วยให้คุณผอมลง ในขณะที่ร่างกายเผาผลาญแอลกอฮอล์ ความสามารถที่จะเผาผลาญไขมันจากอาหาร ก็ทำงานได้น้อยลง ไขมันที่ได้จากมื้ออาหารนั้นจึงไม่ถูกเผาผลาญไป กลับมาสะสมอยู่แถวหน้าท้องกับบั้นท้ายของคุณแทน

3.ดมมาก ๆ ช่วยให้ผอมได้ แนวคิดนี้ฟังแล้วคงต้องอุทานว่า เพี้ยนหรือเปล่า แต่ไม่เชื่อโปรดอย่าลบหลู่ เพราะคนที่ไม่เชื่อแนวคิดนี้ ถูกเบื้องบนลงโทษ ให้อ้วนกันมานักต่อนักแล้ว (อันนี้แค่ขำๆนะ) การดมกลิ่นอาหารนานๆ ก่อนลงมือกิน ทำให้กินได้น้อยลงจริงๆ (สำหรับบางคน) เพราะเวลาเราได้กลิ่น ร่างกายจะมีการส่งข้อมูลไปยังประสาท ส่วนที่ควบคุมความอยากอาหาร ทำให้อยากกิน แต่เมื่อดมไปนาน ๆ สมองคล้ายๆ จะถูกหลอก ว่าเรากินอาหารนั้นเข้าไปแล้ว ประสาทควบคุมความอยาก จะเริ่มทำงานน้อยลง ทำให้เรากินอาหารได้น้อยลง

Posted in เคล็ดลับหลายวิธีในการลดน้ำหนัก | Tags: เรื่องลับ..ที่ไม่ลับ ของไขมัน

เรื่องเข้าใจผิด เกี่ยวกับความอ้วน

สิงหาคม 22nd, 2010

เรื่องเข้าใจผิด เกี่ยวกับความอ้วน

ความเชื่อ : ยิ่งออกกำลังกายเท่าไหร่ ยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น

ความจริง : จริงอยู่ที่การออกกำลังกาย เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุด ในการรักษาน้ำหนักตัว และทำให้สุขภาพโดยรวมดีขึ้น แต่การออกกำลังกายที่หักโหมมากเกินไป ทุก ๆ วัน อาจจะส่งให้เกิดผลลัพธ์อันไม่น่าพึงพอใจ พูดให้เข้าใจง่ายคือ ก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี โดยอาจทำให้ภูมิคุ้มกันของคุณอ่อนแอลง กล้ามเนื้อและข้อต่อต่างๆ เกิดความอ่อนล้า และอ่อนแรง ซึ่งถ้าเรายังฝืนออกกำลังกายต่อไป ในสภาพที่ร่างกายอ่อนล้า จะทำให้การเผาผลาญแคลอรี่ทำงานอย่างไม่มีประสิทธิภาพ วิธีที่ถูกต้อง คุณควรหาเวลาพักผ่อนอย่างน้อย 1 วัน ในแต่ละสัปดาห์ และควรเปลี่ยนแผนการออกกำลังกายบ้าง เช่น บริหารขาวันหนึ่ง แล้ว บริหารแขนในอีกวันหนึ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้กล้ามเนื้อชุดเดียวกันมากเกินไป

ความเชื่อ : กล้ามเนื้อหนักกว่าไขมัน

ความจริง : กล้ามเนื้อ 1 ปอนด์ กับไขมัน 1 ปอนด์ ก็หนักเท่ากัน เพียงแต่กล้ามเนื้อมีความหนาแน่นมากกว่าไขมัน การมีกล้ามเนื้อมากกว่าไขมันจึงทำให้คุณดูเฟิร์ม และ ดูเพรียวกว่า และการมีกล้ามเนื้อมากกว่าไขมัน ก็มีประโยชน์อีกด้วย เพราะกล้ามเนื้อหนึ่งปอนด์มีอัตราการเผาผลาญราว 50 แคลอรี่ต่อวัน ในขณะที่ไขมันหนึ่งปอนด์เผาผลาญเพียงแค่ 2 แคลอรี่ต่อวัน ฉะนั้นยิ่งคุณมีกล้ามเนื้อมากและมีไขมันน้อยเท่าไหร่ อัตราการเผาผลาญของคุณก็จะสูงขึ้นเท่านั้น

ความเชื่อ : เมื่อมีอายุมากขึ้นก็เลี่ยงไม่ได้ที่น้ำหนักจะเพิ่มขึ้น

ความจริง : ตามปกติแล้วไขมันส่วนใหญ่ไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน การให้กำเนิดบุตร หรือกระดูกที่อ่อนแอลง ซึ่งคุณสามารถยืดระยะเวลาการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ ออกไปได้ โดยใช้การยกน้ำหนักเป็นตัวช่วย จากรายงานของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา พบว่า ผู้หญิงที่น้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน ซึ่งยกน้ำหนักเพียง 2 ครั้ง / สัปดาห์ มีการสะสมของไขมันที่หน้าท้องเพียงเล็กน้อย (ประมาณ 7%ในช่วงสองปี) เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ออกกำลังเลย (ไขมันที่สะสมในหน้าท้องเพิ่มถึง 21% ในช่วงสองปี) จึงสรุปได้ว่า ยิ่งคุณยกน้ำหนักเร็วขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งง่ายที่จะทำให้รอบเอวไม่เพิ่มขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป

ความเชื่อ : คุณต้องลดน้ำหนักอย่างมาก เพื่อที่จะได้ประโยชน์ทางสุขภาพ

ความจริง : ถ้าคุณมีเป้าหมายที่จะต้องลดเป็นตัวเลขถึงสองหลัก อาจฟังดูน่ากลัว แต่การลดเพียงแค่ไม่กี่กิโล ก็สามารถมีผลอย่างมากต่อสุขภาพของคุณแล้ว โดยน้ำหนักส่วนเกินทุกหนึ่งกิโลที่คุณลดลงได้ จะทำให้ปริมาณโคเลสเตอรอลของคุณลดลงโดยเฉลี่ย 3 จุด ทั้งหญิงและชายสามารถลดความดันโลหิตลงได้ หลังจากลดน้ำหนักได้ราว 4-5 กิโลกรัม และร่างกายจะมีกลไกปรับสภาพอัตโนมัติ เพื่อให้เหมาะกับน้ำหนักตัวที่ลดลงได้เอง

Posted in แผนการลดน้ำหนัก | Tags: เรื่องเข้าใจผิด เกี่ยวกับความอ้วน

ผลไม้อะไรเอ่ย?? กินแล้วไม่อ้วน

สิงหาคม 21st, 2010

ผลไม้อะไรเอ่ย?? กินแล้วไม่อ้วน

ผลไม้ทุกชนิด เป็นแหล่งวิตามินและเกลือแร่ อันมีประโยชน์และมีคุณค่าต่อร่างกาย ผลไม้บางอย่างก็ช่วยในการรักษาโรค รวมทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ และเพิ่มภูมิคุ้มกันได้อีกด้วย ผลไม้ที่จะแนะนำให้คุณรู้จักต่อไปนี้ เป็นผลไม้ที่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตเฉลี่ย 1.9 – 10 กรัม ต่อน้ำหนัก 100 กรัม โดยอะโวคาโดมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำสุด ส่วนที่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตสูงสุดคือแอปเปิ้ล ซึ่งคุณสามารถที่จะกินผลไม้เหล่านี้ได้บ่อย ๆ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะอ้วน

1. กีวี – มีสารแอคทินิดีน ช่วยสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้หัวใจแข็งแรง

2. มะเขือเทศ – ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็ง และโรคหัวใจ

3. มะละกอ – ช่วยย่อยอาหาร โดยเฉพาะโปรตีน

4. อะโวคาโด – ช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็งชนิดต่าง ๆ ได้ถึง 30 ชนิด

5. สับปะรด – ช่วยต้านเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย

6. ผลไม้ตระกูลเบอรี่ทั้งหลาย เช่น สตรอเบอรี่ แบลคเบอรี่ ราสเบอรี่ – ช่วยเรื่องระบบไหลเวียนโลหิต

7. แครนเบอร์รี่ – ช่วยป้องกันโรคนิ่วในไต ช่วยต้านเชื้อไวรัส

8. ผลไม้ตระกูลส้ม – ช่วยลดโคเลสเตอรอล และไขมันในเส้นเลือด

9. ผลไม้กลุ่มแตง – มีสรรพคุณดีเยี่ยม ในการล้างพิษให้กับร่างกาย

10. แอปเปิ้ล – ช่วยทำความสะอาดระบบย่อยอาหาร

Posted in อาหาร, เคล็ดลับหลายวิธีในการลดน้ำหนัก | Tags: ผลไม้อะไรเอ่ย?? กินแล้วไม่อ้วน

ลดน้ำหนักตามราศีเกิด

สิงหาคม 20th, 2010

ลดน้ำหนักตามราศีเกิด

ราศีมังกร (22 ธ.ค. – 19 ม.ค.)

คนราศีมังกร เป็นคนอารมณ์ดี ชอบสนุกสนาน และมองโลกในแง่ดี เวลาทานอาหารลองทานพร้อมอ่านหนังสือการ์ตูน หรือดูทีวีรายการโปรด ไม่ก็ชวนเพื่อนที่มีไลฟ์สไตล์เดียวกันมาทานด้วย เอาแบบทานไปขำไป นอกจากจะได้เผาผลาญพลังงานโดยการหัวเราะแล้ว ยังทำให้ทานได้น้อยลงอีกด้วย เพราะมัวแต่ขำ ส่วนอาหารก็ควรเน้นไปที่อาหารแคลอรี่ต่ำ

ราศีกุมภ์ (20 ม.ค. – 18 ก.พ.)

คนราศีกุมภ์ เป็นคนมีไอเดีย ชอบคิด ชอบประดิษฐ์ เป็นนักวางแผน แม้แต่ในการออกกำลังกายและการควบคุมอาหาร ก็จะมีการวางแผนไว้เป็นอย่างดี และยังมีความสามารถพิเศษ สามารถครีเอทเมนูอาหารเด็ดแบบไขมันต่ำ เป็นของตัวเองได้ด้วย การลดน้ำหนักจึงไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อเลย

ราศีมีน (19 ก.พ. – 20 มี.ค.)

คนราศีมีน เป็นเจ้าแห่งกฏเกณฑ์ ชอบทำอะไรเป็นขั้นเป็นตอน การลดน้ำหนักของคนราศีนี้ จะต้องมีการศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะจากหนังสือ นิตยสาร ตำราอาหาร หรือแม้แต่ในอินเตอร์เนต ส่วนการออกกำลังกายก็ชอบที่จะทำตามตัวอย่างรายการในทีวี หรือซื้อซีดีแอโรบิค มาทำตาม การไดเอทสำหรับคนราศีนี้จึงกลายเป็นเรื่องสนุกสนานไป

ราศีเมษ (21 มี.ค. – 19 เม.ย.)

คนราศีเมษ เป็นคนใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ แข่งกับเวลา การที่จะเตรียมอาหารเองจึงเป็นไปไม่ได้ วิธีเลือกทานอาหารของคนราศีนี้จึงมักจะซื้อพวกอาหารสำเร็จรูปชนิดไขมันต่ำมาตุนไว้ในตู้เย็น เพราะไม่อยากที่จะเสียเวลาไปหาซื้อบ่อยๆ การออกกำลังกายก็เช่นกัน เนื่องจากเวลาน้อยจึงอาศัยการเดินเร็วๆ และพยายามไม่ใช้ลิฟท์ เพื่อให้ได้เหงื่อ และกำจัดไขมันส่วนเกินออกไป

ราศีพฤษภ (20 เม.ย. – 20 พ.ค.)

คนราศีพฤษภ เป็นคนละเอียดรอบคอบ การจะลดน้ำหนักของคนราศีนี้จึงถูกกำหนดตารางการไดเอทได้อย่างเหมาะเจาะ แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะให้รางวัลกับตัวเอง ด้วยการจัดอาหารมื้อใหญ่ตามใจอยากซักสัปดาห์ละหน เพื่อเพิ่มความสุขในการไดเอทให้มากยิ่งขึ้น

Read the rest of this entry »

Posted in เคล็ดลับหลายวิธีในการลดน้ำหนัก | Tags: ลดน้ำหนักตามราศีเกิด

กินสลัดอย่างไร ไม่ให้อ้วน

สิงหาคม 20th, 2010

กินสลัดอย่างไร ไม่ให้อ้วน

การตั้งหน้าตั้งตากินแต่สลัดผักโดยเข้าใจว่ามันจะสามารถช่วยลดความอ้วนได้ นับว่าเป็นการเข้าใจที่ไม่ถูกต้องนัก เพราะการกินแต่สลัดอย่างเดียวจะทำให้ผิวเหี่ยวเร็ว ฉะนั้นคุณควรที่จะเติมโปรตีนลงไป เพื่อให้หนักกระเพาะด้วย โดยอาจจะเติม เนื้อไก่ ทูน่า เมล็ดธัญพืช ลูกเดือย ฟักทอง เพราะของพวกนี้มีจะมีไขมันต่ำ และมีประโยชน์ เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังลดน้ำหนักทุกคน

ในจานหนึ่ง ควรมีผักและผลไม้หลาย ๆ อย่าง เพื่อให้ได้ลิ้มรสชาติที่หลากหลาย อย่างเช่น แตงไทย แอปเปิ้ล สับปะรด ทำให้ไม่น่าเบื่ออีกด้วย นอกจากนี้ถ้าเหยาะพริกไทย ลงในชามสลัดด้วย นอกจากจะทำให้สลัดของเรา รสชาติอร่อยขึ้นแล้ว พริกไทยยังช่วยในการเผาผลาญอาหารให้ดีขึ้นอีกด้วย

จากการวิจัยล่าสุดพบว่า ในแต่ละมื้ออาหาร ถ้าเราได้รับไขมันในปริมาณต่ำๆ จะช่วยให้การดูดซึมอาหารของเราดีขึ้น ตอนนี้สาวๆทั้งหลายที่เคยเข้าใจว่า การกินสลัดเพื่อลดความอ้วน ควรกินน้ำสลัดแบบไม่มีไขมันเท่านั้น คงจะยิ้มออก เพราะช่วงลดความอ้วน เราก็สามารถที่จะกินน้ำสลัดแบบมีไขมันได้แล้ว เพียงแต่จำกัดจำนวนไม่ให้เกิน 2 ช้อน เพื่อควบคุมปริมาณแคลอรี่นั่นเอง

Posted in อาหาร, อาหารเพื่อสุขภาพ และที่ควรหลีกเลี่ยง | Tags: กินสลัดอย่างไร ไม่ให้อ้วน

กินป๊อบคอร์น..ลดอ้วนได้???

สิงหาคม 19th, 2010

กินป๊อบคอร์น..ลดอ้วนได้???

การตั้งเป้าเพื่อลดน้ำหนักให้ได้ อาจเป็นความคิด ของคนที่ประสบปัญหาน้ำหนักเกิน หลายๆคน แต่อยากบอกว่า การลดน้ำหนักนั้น ต้องลดอย่างถูกวิธี ด้วยการเลือกกินอาหารให้ครบถ้วนตามหลักโภชนาการดีกว่า เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียใจ และเสียสุขภาพในภายหลัง

คนที่อยากลดน้ำหนักนั้น ไม่จำเป็นที่จะต้องงดการกินอาหารอย่างขาดสติ กลอเรีย ซาง ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโภชนาการให้คำแนะนำว่า วิธีที่เหมาะสมและถูกต้องนั้นอยู่ที่เลือกรับประทานอาหารง่ายๆ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ อันเป็นแนวทางที่จะทำให้ประสบผลสำเร็จในการลดน้ำหนัก ตามเป้าหมาย

ผู้หญิงมักจะตกเป็นเหยื่อมากที่สุดในการเลือกกินอาหารที่ไร้ประโยชน์ โดยหลายคนมักอ้างเรื่องความเร่งรีบ หรือไม่มีเวลา ในการสรรหาอาหารที่ดีมีประโยชน์รับประทาน ทั้งที่ความจริงมันมีหลักการง่ายๆ ในการเลือกกินอาหารเพื่อลดน้ำหนักให้ถูกวิธีได้ นั่นคือให้หลีกเลี่ยงการกินเนื้อที่ผ่านกรรมวิธี ไม่ควรงดอาหารเช้า และไม่กินข้าวหรือขนมปังขัดขาว ที่มีคุณค่าทางโภชนาการน้อย หรือแทบไม่มีเลย

ส่วนผักจำพวกที่มีสีสันสดใส ควรกินให้มาก เพราะนอกจากมีแคลอรี่ต่ำแล้ว ยังมีใยอาหารมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ และถ้าอยากกินของหวาน ก็อาจจะเลือกของขบเคี้ยวที่เป็นผลไม้สดหรือผลไม้แห้งก็ได้

กลอเรีย ซาง ยังให้คำแนะนำต่อไปว่า ควรกินป๊อบคอร์น เพราะเป็นอาหารที่มีกากใยและสารต้านอนุมูลอิสระ โดยแทบไม่มีปริมาณแคลอรี่เลย ซึ่งถ้าต้องการจะกินป๊อบคอนจริงๆ ก็ต้องเลือกอย่างที่ไม่อบเนย จึงจะดีและมีประโยชน์

Posted in อาหาร | Tags: กินป๊อบคอร์น..ลดอ้วนไ

เครื่องดื่มยามเช้าที่เหมาะสมกับตัวคุณ

น้ำมะนาว ลองหาน้ำมะนาวดื่มตอนเช้า เพราะในน้ำมะนาวจะมีกรดกรดซิตริกมีวิตามินซีที่นอกจา กจะช่วยขับเสมหะ แก้อาการเจ็บคอแล้วยังช่วยให้ร่างกายสดชื่น แถมกลิ่นหอมอ่อนๆ จากเปลือกที่โดนคั้นยังช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายได้ดีอีกด้วย

น้ำขิง สำหรับคนที่มีอาการเมาค้าง คลื่นไส้ อยากอาเจียน ก็ขอแนะนำน้ำขิงร้อนๆ สักแก้วเพราะในขิงมีสารเคมีชนิดที่เรียกว่า “จินเจอรอล” (Gigeyol)ที่เป็นสารเคมีประเภทน้ำมันหอมระเหยที่ให้รสและกลิ่น พิเศษไม่เหมือนใคร จัดอยู่ในกลุ่มแอลกอฮอล์ที่ไม่ทำให้เรารู้สุกมึนเมา แถมยังแก้อาการเมาได้ ดี การทำน้ำขิงให้อร่อยนั้น ควรบุหัวขิงที่ไม่แก่จัดจนเกินไป ต้มด้วยน้ำร้อนพอเดือดอย่าต้มนานเกินไป เพราะขิงจะเสียรสและกลิ่นไปได้

น้ำผักและผลไม้ เป็นเครื่องดื่มที่อุดมไปด้วยวิตามินหลายชนิด โดยเฉพาะวิตามินซี วิตามินเอ โฟลิคแอซิค และแร่ธาตุ เช่น โซเดียม โปแตสเซียม สังกะสี นอกจากนั้นในน้ำผักและผลไม้ยังมีส่วนผสมของน้ำตาลโดย ธรรมชาติ ซึ่งสามารถให้พลังงานแก่ร่ายกาย ช่วยให้เราหายเหนื่อยหายเพลีย ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น

น้ำหวาน คนที่นอนดึกส่วนใหญ่ยามเช้าของคุณจะมีอาการปวดหัว มึนศีรษะ เกิดอาการเครียดทางประสาท ซึ่งอาจเป็นเพราะร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ควรรับประทานอาหารเช้าที่มีแป้งและน้ำตาลซึ่งจะสามาร ถช่วยได้ โดยเฉพาะน้ำตาลนั้นจะถูกดูดซึมได้ดีและง่าย ดังนั้นน้ำหวานจะทำให้จิตใจสงบ คลายอาการเครียดและมึนงงได้อย่างดี

นมถั่วเหลือง ปัจจุบันนมถัวเหลืองหาซื้อได้ง่าย และเหมาะสมสำหรับคนที่รักสุขภาพ เพราะนมถัวเหลืองเป็นเครื่องดื่มที่ให้โปรตีนที่มีคุ ณสมบัติเหมือนโปรตีนจาก เนื้อสัตว์ อุดมไปด้วย คาร์โบไฮเดรต แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ, บี, บี1, บี2, บี6, บี12 ในเมล็ดถั่วเหลืองนั้นยังมีเลซิทิน ซึ่งเป็นสารบำรุงสมอง เพิ่มความทรงจำ ลดไขมันและลดคอเลสเตอรอลในร่างกาย นมถั่วเหลืองยังช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน โรคหัวใจล้มเหลว ท้องผูกสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งในลำไส้ ริดสีดวง ลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดได้อีกด้วย

กาแฟ กาแฟเป็นเครื่องดื่มยามเช้าของคนทำงาน เพราะกาแฟช่วยกระตุ้นความสดชื่นและความกระปี้กระเปร่าก่อนลงมือทำงาน นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี มะเร็งลำไส้ใหญ่ ลดอาการหอบในผู้ที่เป็นโรคหอบหืด และเป็นผลดีต่อนักกีฬาในการเพิ่มความทนทานและความอืด ในกีฬาที่ต้องใช้เวลานาน

ขอบคุณวิชาการดอทคอม

__________________